เกมพรีเมียร์ลีกคู่สามทุ่ม คริสตัล พาเลซ ที่ฤดูกาลก่อนรอดตกชั้นแล้วเล่นแบบชิวที่สุดในโลก ต้องโคจรมาพบกับทีมที่เกือบต้องดิ้นรนหนีตกชั้นอย่าง เซาแธมป์ตัน สำหรับผังการเล่น ปราสาทเรือนแก้วมาในระบบเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง 4-4-2 ส่วนนักบุญแมร์รี่มาในระบบ 4-4-2 เช่นเดียวกัน
คริสตัล พาเลซ วิ่งกดดันจนเสียบอล เปิดทางให้ทาวน์เซนด์มีพื้นที่ลาก ก่อนเปิดบอลไปที่เสาไกลให้ซาฮาตะบันยิงแบบไม่จับ
อัพเดทข่าวกีฬา กับ เซาแธมป์ตัน พยายามเซตบอลแต่ไม่วิ่งเคลื่อนตัวเพื่อหาที่ว่างสำหรับการถ่ายบอล ทำให้คริสตัล พาเลซวิ่งกดดันจนเสียบอล เปิดทางให้ทาวน์เซนด์มีพื้นที่ลาก ก่อนเปิดบอลไปที่เสาไกลให้ซาฮาตะบันยิงแบบไม่จับ จนกลายเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ของเจ้าถิ่น อย่างไรก็ดีนอกเหนือจากความผิดพลาดของผู้เล่นทีมเยือนที่เซตบอลไม่ดีจนเสียบอลไป ผู้รักษาประตูอย่างแม็คคาร์ธี่ ก็มีส่วนผิดพลาด เพราะลูกยิงของซาฮายิงเสาใกล้ แถมไม่ได้เสียบมุมและสุดวิสัยต่อการป้องกัน แต่จังหวะการวางเท้าไม่ดีทำให้การพุ่งเซฟไม่ทันการณ์
ครึ่งแรกเซาแธมป์ตัน เจาะบริเวณหัวกะโหลกของคริสตัล พาเลซไม่ได้เลย ต้องเน้นการทำชิ่งแล้วเปิดจากริมเส้น เพื่อป้อนบอลกับหน้าเป้าอย่าง อิงค์ แต่ในครึ่งหลังมีการแก้เกม ด้วยเน้นเล่นบอลจังหวะเดียวเพื่อเจาะพื้นที่แคบ ๆ ในแนวรับของเจ้าบ้าน ซึ่งทำได้ดีจนมีจังหวะได้จบที่อันตรายมาขึ้นกว่าครึ่งแรก แต่ติดเซฟไกว์ต้า ที่สามารถกล่าวได้ว่าจังหวะเซฟ 2 ครั้ง ในครึ่งหลัง คือการช่วยให้คริสตัล พาเลซได้ 3 แต้มในวันนี้
ยานิค เวสเทอร์การ์ด คือกองหลังที่มีจุดเด่นลูกกลางอากาศมาก ๆ เพราะโยนเข้ามาแต่ละครั้งได้โหม่งตลอดแถมมีน้ำหนักอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการโหม่งเพื่อทำประตู หรือโหม่งตั้งให้เพื่อนได้ยิง อาทิ ลูกฟรีคิกนาทีที่ 52 นับเป็นจังหวะที่เซาแธมปต์ตันน่าได้ประตูตีเสมอ แต่ไกว์ต้าเซฟไว้ได้ หากปรับจูนให้ดีเชื่อว่าทัพพนักบุญจะมีที่เด็ดที่น่ากลัวยามได้ลูกตั้งเตะอย่างแน่นอน
บทสรุปเกมนี้ พาเลซ เล่นได้ตามมาตรฐานเดิม ไม่ได้มีอะไรพิเศษและไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ ส่วนเซาแธมป์ตัน การต้องเล่นบอลเร็วและน้อยจังหวะ ทำให้เห็นถึงทักษะการรับส่งบอลของผู้เล่นยังไม่เนียนตาเท่าใดนัก เพราะหากปรับให้ดีกว่านี้ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการเจาะคู่แข่งที่มาตั้งรถบัสรอได้มากขึ้นเท่านั้น