ทีมชาติฮอลแลนด์ พวกเขากลับเข้าร่วมรายการนี้อีกครั้ง หลังหายหน้าไปใน ส่องยูโร 2016 เนื่องจากไม่ผ่านรอบคัดเลือก ในครั้งนี้พวกเขาเข้ารอบมาเป็นอันดับที่ 2 ของกลุ่ม รองจาก ทีมชาติเยอรมัน โดยพวกเขาเก็บสถิติชนะ 6 เสมอ 1 แพ้ 1 มี จินี่ ไวนาลดุม เป็นดาวซัลโวในรอบคัดเลือก โดยเขายิงไป 8 ประตู ส่วน เมมฟิส เดปาย อีกหนึ่งกำลังหลักของทีมซัดไป 6 ประตู
ในส่วนขุมกำลังอื่นๆประกอบไปด้วย แผงหลัง มัทไธจ์ เดอลิกท์ จาก ยูเวนตุส นาธาน อาเก้ ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมไปถึง ดาลีย์ บลินด์ ของ อาแจ็ก อัมส์เตอร์ดัมส์
ในส่วนของมิดฟิลด์ พวกเขามี จินี่ ไวนาลดุม ส่องยูโรดาวดังของ ลิเวอร์พูล ที่พึ่งจะย้ายไปอยู่กับ ปารีส แซงแชร์กแมง และ เมอร์เทน เดอรูน ของ อตาลันต้า และ แฟรงกี้ เดอยอง ดาวรุ่งพุ่งแรง จาก บาเซโลน่า ส่วนแนวรุก ฝากความหวังไว้กับ เมมฟิส เดปาย และ ลุค เดอยอง ศูนย์หน้าจาก เซบีญ่า

ส่องยูโร รอบคัดเลือก พวกเขาอยู่ร่วมกลุ่มกลับ โปรตุเกส เซอร์เบีย ลักเซมเบิร์ก และ ลิธัวเนีย
ทีมชาติยูเครน พวกเขาผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของประเทศ และเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน โดยในรอบคัดเลือก พวกเขาอยู่ร่วมกลุ่มกลับ โปรตุเกส เซอร์เบีย ลักเซมเบิร์ก และ ลิธัวเนีย พวกเขาคว้าแชมป์กลุ่มแบบไร้พ่าย ด้วยสถิติชนะ 6 เสมอ 2 ยิงได้ 17 เสีย 4 ประตู เก็บได้ 20 คะแนน นำหน้าโปรตุเกส ของ คริสเตียโน โรนัลโด้ 3 คะแนน
ผู้เล่นในทีมชุดนี้ ข่าววงการฟุตบอล ส่วนใหญ่ค้าแข้งอยู่ในทีมดังในประเทศ จะมีเพียง ส่องยูโร รุสลาน มารอนอฟสกี้ แนวรุกของ อตาลันต้า และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ มิดฟิลด์สำรอง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่พอจะคุ้นหูบ้าง
ทีมชาติออสเตรีย พวกเขาผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 3 โดยในรอบคัดเลือก พวกเขาอยู่ร่วมกลุ่มกับ โปร์แลนด์ มาเซโดเนีย สโลเวเนีย อิสราเอล และ ลัตเวีย โดยพวกเขาจบด้วยอันดับที่ 2 ของกลุ่ม ด้วยสถิติ ชนะ 6 เสมอ 1 แพ้ 3 ตามหลังแชมป์กลุ่ม โปร์แลนด์ 6 คะแนน โดย มาร์โก อนาโตวิช เป็นดาวซัลโว ของทีมยิงไป 6 ประตู

ในรอบคัดเลือก ผู้เล่นของพวกเขา ถึงแม้จะไม่มีดาวดังระดับโลก มีเพียง ดาวิด อลาบา อดีตดาวเตะ บาเยิร์น มิวนิค ที่เลือกย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด เท่านั้นที่ทุกคนรู้จัก แต่ดาวเตะในทีมชุดนี้ ส่วนมากค้าแข้งอยู่ในบุนเดสลีก้า ซึ่งก็ถือว่าพวกเขาแข็งแกร่งพอตัวเลยทีเดียว
ทีมชาติมาเซโดเนีย พวกเขาผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ โดยพวกเขาจบอันดับที่ 3 ในรอบคัดเลือก ของกลุ่มที่มี โปร์แลนด์ และ ออสเตรีย สองทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายอยู่ร่วมกลุ่ม และได้สิทธิ์เล่นเพลย์ออฟ เพื่อหาอีก 4 ทีมเข้ารอบสุดท้าย และพวกเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยในรอบเพลย์ออฟ พวกเขาเอาชนะ โคโซโว ในรอบแรก 2-1 ก่อนจะเบียด จอร์เจีย ในรอบชิงตั๋ว
ส่องยูโร 2020 ด้วยสกอร์ 1-0 จากการยิงของ โกราน ปานเดฟ อดีตดาวดังของ ลาซิโอ ซึ่งปัจจุบัน เขาอายุ 37 ปี และเป็นคนเดียวในทีมชาติชุดนี้ ที่พอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง ไม่พลาดข่าวบอลออนไลน์ที่พร้อมให้คุณติดตามกันแล้วที่นี่ ดัมมี่ออนไลน์ เว็บข่าววงการฟุตบอลอันดับหนึ่งของเมืองไทย